ผลิตผลเพิ่มพูนของกินจำนวนมากแห่งท้องตลาดกล่าวถึงลุ้นลดระดับน้ำตาลณเลือดและตัดทอนการเสี่ยงของหัวใจบุกคนเจ็บโรคเบาหวานหอมเทียมแมกนีเซียมด้วยกันโคเอนไซม์คิวเทนเป็นอาหารสถานที่มนุษย์เป็นส่วนใหญ่แบบใช้
คลีฟแลนด์สถานพยาบาลเป็นศูนย์กลางการแพทย์แห่งเปล่าค้นหาผลประโยชน์การโฆษณาการบนบานเว็บไซต์สิ่งของดีฉันลุ้นสนับสนุนพันธกิจสิ่งของเราเราไม่ต้อนรับผลิตภัณฑ์หรือว่าบริการที่ไม่ใช่เช่นนั้นของคลีฟแลนด์สถานพยาบาลนโยบาย
แต่คงเป็นเหตุให้เจ้าเอ็งสงสัยแห่งทราบแหวมนุษย์เก่าคนโปรด 14; อบเชย 14 กำลังได้รับนักโภชนาการ Beth Czerwony, MS, RD, CSOWM, LD รายงานให้ความสนใจเจริญ
เสียแต่ว่าผลสรุปจักยังแปร่งๆชิน แต่ว่าก็ประกอบด้วยการศึกษาเล่าเรียนกระจิดริด ๆ โกร๋งเกร๋ง ๆ เกี่ยวกับอบเชยด้วยกันผิวสองสีแห่งโลหิตแห่งจัดแสดงผลที่น่าดึงดูดอย่างไรก็ตามจนถึงปัจจุบันมี 19; ไม่มีหลักฐานพอเพียงที่จะแนะนำตัวอบเชยปันออกกับดักผู้ป่วยเบาหวานเพื่อที่จะจุดประสงค์ทางการแพทย์
นี่ถือเอาว่าชิ้นสถานที่อิฉันแจ้ง
อบเชยซึ่งครอบครองเครื่องเทศที่สร้างจากกาบโดยมากถูกตั้งชื่อด้วยคุณสมบัติทางยาที่มีอำนาจกลุ่มคนได้พิสูจน์อบเชยเพื่อที่จะตัดทอนการอักเสบลดคอเลสเตอรอลและต่อสู้กับบักเตรีเป็นเวลากว่าทศวรรษแล้วแห่งหนนักวิจัยมุมานะศึกษาดุสมรรถสนับสนุนคนเจ็บเบาหวานได้หรือเปล่า
การเรียนจำนวนมากได้มาพิจารณาโจทย์ตรงนี้ด้วยกันบางส่วนพานพบตวาดปราศจากผลดีขนมจากอบเชยเกินการหาความรู้ขนาดย่อมอื่น ๆ พบตวาดอบเชยสมรรถลดระดับน้ำต้นตาลเดกซ์โทรสคอเลสเตอรอลกับไตรกลีเซอไรด์ (ไขแห่งโลหิต) คว้า
ตั้งแต่นี้ไปเป็นตัวชนิดสิ่งของการหาความรู้ขนาดย่อมสถานที่แสดงถึงผลดีแห่งคงจะบังเกิดจากงานกินอบเชย:
การศึกษาแห่งปี 2003
ณการศึกษาขนาดเล็กในการดูแลผู้ป่วยเบาหวาน 30 มนุษย์ที่เป็นโรคโรคเบาหวานประเภท 2 แบ่งแยกออกดำรงฐานะ 3 กลุ่มสถานที่รับประทานอาหารเสริมอบเชย 1 กรัม 3 กรัมหรือ 6 กรัมดามวันคนอื่น ๆ อีกสามสิบมนุษย์ได้รับสารเสพติดหลอก
ภายหลัง 40 วันทุกคนที่รับประทานอบเชยจะมีระดับน้ำตาลเดกซ์โทรสไตรร้ายเซอไรด์ไลโปโปรตีนความหนาแน่นต่ำ (LDL หรือ 1C; bad1D;) กับระดับคอเลสเตอรอลรวมลดลงกลุ่มยาหลอกไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง
การเล่าเรียนวิจัยข้างโภชนาการนี้คว้าวิเคราะห์ผู้ป่วย 69 รายในประเทศจีนที่เป็นโรคเบาหวานชนิดแห่ง 2กลุ่มหนึ่งรับประทานสินนามอน 120 มิลลิกรัมต่อวันอีก 360 มิลลิกรัมและหนึ่งในสามเป็นยาเสพติดหลอกภายหลังสามพระจันทร์กลุ่มสารเสพติดหลอกไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงในขณะที่ทั้งสองหมวดที่กินอบเชยมีระดับ A1C น้อยลง
การศึกษาพรรษา 2013
การวิเคราะห์อภิมานจาก 10 การเรียนรู้พบจัดการบริโภคอบเชยแห่งหนผลิตa 1C มีนัยสำคัญมุขสถิติ 1D;ลดดำแดงกลูโคสคอเลสเตอรอลร่วม LDL และไตรกลีเซอไรด์นอกจากนี้ยังมากขึ้นไลโปโปรตีนความหนาแน่นดำเกิง (HDL หรือ 1C; good1D;) คอเลสเตอรอลเช่นกัน
แต่นักค้นคว้าตั้งข้อน่าสังเกตว่าการจับผลลัพธ์กลุ่มนี้ไปใช้กับบุคคลนั้นเป็นเรื่องยุ่งยากส่วนมากเป็นเพราะปริมาณและชนิดสิ่งของอบเชยที่ถ่ายและกาลเวลาในการใช้แตกต่างกันณแต่ละการศึกษา
การศึกษาในชันษา 2019
การศึกษาหนึ่งในพรรษา 2019 รายงานแหวพบงานบริโภคอบเชย 3 ถึง 6 กรัมมีผลในเชิงบวกประกบค่าโลหิตบางอย่างและถือว่าอำนวยประโยชน์สำหรับผู้ที่บริโภคอบเชยทุกครั้ง
จะใช้คืนหรือไม่ใช้คืน
อบเชยอาจมีราคาต่อพลานามัยบ้างจะอย่างไรก็ตาม American Diabetes Association ไม่แนะนำให้ชดใช้อบเชยเป็นกรรมวิธีลดระดับน้ำต้นตาลในโลหิตเราไม่ผลขนมจากการศึกษาประกอบด้วยความขัดแย้งห้ามและไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะพิสูจน์แหวมันเสีย